เกิดอาการเบลอ เพราะจ้องวงล้อนานๆ แก้ด้วยวิธีนี้เมื่อความเพลินในการเล่นเกมสล็อตค่าย PG SLOT เป็นอะไรที่หยุดไม่ได้จึงทำให้นักเดิมพันจำนวนไม่น้อยสามารถอยู่ในเกมยาว ๆ ต่อเนื่องกันหลายชั่วโมงและยิ่งไปกว่านั้นหากทำกำไรได้สูง การอยู่ในเกมก็จะยิ่งต่อเวลามากขึ้นไปอีกจนบางคนมารู้ตัวอีกทีก็หมุนวงล้อปาไปไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมงติดกันแบบไม่ได้พักแม้ว่าการเล่นเกมสล็อต PG ในลักษณะนี้จะสามารถทำเงินเข้ากระเป๋าได้เต็มที่ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทางเราแนะนำเพราะพฤติกรรมการเล่นรูปแบบนี้อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายเช่น “ดวงตา” ได้โดยตรงเพราะที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างให้เห็นกันบ่อย ๆ แล้วว่าผู้เล่นเกมสล็อตที่มีพฤติกรรมหมุนวงล้อยาว ๆ อาจจะทำให้ตาเบลอได้ดังนั้นหากใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่สามารถใช้วิธีต่อไปนี้แก้ไขได้เลย
เกิดอาการเบลอ แก้ดังนี้
นอนพัก
นี่คือวิธีที่ดีที่สุดเมื่อเกิดอาการเบลอเพราะจ้องวงล้อนาน ๆ เพราะด้วยความที่การเล่นเกมสล็อตวงล้อจะหมุนไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหยุดจึงทำให้สัญลักษณ์ปรากฏขึ้นมา แน่นอนว่าช่วงที่กำลังหมุนอยู่นั้นก็ทำเอาผู้เล่นตาลายไม่น้อยและยิ่งจ้องไปนาน ๆ ก็ต้องเกิดอาการเบลอมองภาพไม่ชัดตามมาเป็นปกติดังนั้นวิธีแก้ไขที่ง่ายและดีที่สุดคือต้องพยายามนอนพักทันทีเมื่อเกิดอาการดังกล่าวและขอเน้นย้ำว่าแม้จะอยู่ในช่วงที่กำลังทำเงินได้และชนะเกมอยู่ก็ไม่ควรเสียดายเพราะสุขภาพนั้นสำคัญกว่าเมื่อหายดีค่อยกลับเข้ามาทดลองเล่น PG SLOT บนเว็บ PGSLOT.TO ก็ได้เพราะที่นี่เปิดบริการตลอด 24 ชม.อยู่แล้ว
พักการเล่นไปสัก 1-2 วัน
ผู้เล่นที่รักในการหมุนวงล้อทราบหรือไม่ว่าการที่เล่นเกมสล็อตนาน ๆ แล้วเกิดอาการตาเบลอนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยเพราะนั่นคือเสียงเตือนปัญหาสุขภาพโดยตรงดังนั้นหากว่าคุณชื่นชอบการหารายได้จากการเล่นเกมสล็อตจริง ๆ สิ่งที่ควรทำคือพักการเล่นไปก่อนจะเป็นเวลา 1-2 วันหรือมากกว่านั้นก็ได้เพื่อเป็นการปรับสภาพร่างกายและให้ตนเองได้พักเพราะหากฝืนเล่นไปเรื่อย ๆ แล้วมีอาการหนักมาก ๆ ก็อาจจะทำให้คุณไม่สามารถเล่นเกมสล็อตได้อีกเลย ดังนั้นหากชอบจริง ๆ ก็ควรเล่นให้เป็นพร้อมกับคำนึงถึงสุขภาพตนเองไปด้วย
ให้คนอื่นเล่นแทน
แม้จะเป็นวิธีการที่หลายคนอาจจะไม่ชอบใจมากนักแต่หากว่าคุณกลัวจะเสียรายได้ไปเพราะหมุนวงล้อไม่ต่อเนื่อง ก็ให้เพื่อนหรือแฟนเล่นเกมสล็อตค่าย PG SLOT แทนในระหว่างที่คุณกำลังประสบกับปัญหาเบลอ ๆ นี้ โดยคุณสามารถคอยให้คำแนะนำอยู่ข้าง ๆ ได้ แต่ไม่ต้องเล่นเอง
เกิดอาการเบลอ เมื่อยล้าดวงตาจากการจ้องนานๆ แก้ดังนี้
คำว่า “ตาล้า” (หรือ asthenopia) ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โรคหรือภาวะความบกพร่องโดยตรงแต่เป็นคำที่เข้าใจโดยทั่วไป ที่ผู้ป่วยมักใช้อธิบายเมื่อเกิดความรู้สึกเมื่อยล้าสายตา
- อาการทั่วไปของตาล้า ประกอบด้วย:
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตา
- ปวดศีรษะ
- ตามัว และบางครั้งมองเห็นภาพซ้อน
- บางครั้งอาจมีอาการปวดตา, ตาแดง และตากระตุกร่วมด้วย
- อาจรู้สึกระคายเคืองบริเวณรอบดวงตา โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตาเนื่องจากทำงานในสภาพแสงสว่างไม่เพียงพอ หรือลักษณะท่านั่งทำงานไม่เหมาะสม
อาการปวดเมื่อยล้านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะบริเวณดวงตาเท่านั้น ถ้าหากกล้ามเนื้อมีการเกร็งตัวมากเกินจากความตึงเครียดอาจเกิดความปวดเมื่อยลามไปถึงใบหน้า, กราม, และขมับ ซึ่งอาการทั้งหลายเหล่านี้จะทำให้ร่างกายโดยรวมเกิดความอ่อนล้าประสิทธิภาพการทำงานลดลงและมีโอกาสทำงานผิดพลาดมากขึ้นถึงแม้ว่าอาการตาล้าจะทำให้รู้สึกไม่สบายและน่ารำคาญใจแต่ข่าวดีก็คืออาการตาล้าไม่ได้อยู่ถาวรหรือไม่ใช่ความเจ็บป่วยรุนแรง อาการตาล้ามักจะหายเองได้เมื่อคุณปล่อยให้สายตาได้พักบ้าง
ทำอย่างไรจึงจะบรรเทาอาการตาล้าได้
มีวิธีการง่ายๆ หลายอย่างที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดหรือบรรเทาอาการตาล้าโดยเฉพาะในกรณีที่เกิดจากโรคตาจากจอคอมพิวเตอร์ (หรือ CVC)วิธีการที่ง่ายที่สุดที่คุณสามารถทำได้ คือการปล่อยให้สายตาได้พักอยู่เรื่อยๆ เวลาที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออ่านหนังสือใช้สูตร 20-20-20 คือพักสายตาจากจอหรือหน้าหนังสือทุกๆ 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที แล้วเปลี่ยนไปมองวัตถุที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 20 ฟุตปล่อยให้สายตาได้พักก่อนที่จะกลับมาทำงานหน้าจอหรืออ่านหนังสือต่อ
คุณสามารถปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้หลายประการเพื่อช่วยป้องกันการเกิดอาการตาล้า
- ประการแรก ดูที่การตั้งค่าหน้าจอ ปรับให้ความสว่างอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่จ้าเกินไป หรือมืดเกินไป: คุณควรตั้งค่าความสว่างให้ใกล้เคียงกับระดับแสงไฟบริเวณโต๊ะทำงาน หรือความสว่างในห้อง
- คุณควรปรับขนาดตัวอักษรให้สามารถอ่านหรือพิมพ์งานได้อย่างสบายตา เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเกร็งกล้ามเนื่อตาในการพยายามอ่านตัวหนังสือที่มีขนาดเล็กเกินไป
- มาดูสภาพของโต๊ะทำงาน ควรพิจารณาถึงประเภทของแสงสว่างที่คุณใช้ขณะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นแสงธรรมชาติ หรือแสงจากโคมไฟ ถ้าเป็นไปได้พยายามอย่านั่งหลังหรือตรงหน้าหน้าต่าง เพราะเป็นจุดที่ได้รับแสงจ้าจากแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาโดยตรง ถ้าจำเป็นต้องนั่งตรงนั้น พยายามปิดหน้าต่างหรือม่านบังแสง เพื่อกันแสงไม่ให้ส่องตรงเข้ามา
- คุณควรตรวจดูหลอดไฟที่ใช้ในห้องทำงาน หลอดไฟฟลูโอเรสเซนต์ที่ใช้ในอาคารสำนักงานทั่วไป ค่อนข้างจ้าเกินไปสำหรับคนส่วนมาก หลอดไฟที่แรงเทียนต่ำกว่านั้นเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่าในการลดแสงจ้าในห้องทำงาน
เรื่องสำคัญอีกอย่างที่คุณควรทำคือไปพบจักษุแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญทางสายตาเพื่อรับการตรวจวัดสายตาคุณอาจจะมีปัญหาด้านสายตาที่ยังไม่ได้รับการตรวจพบหรือคุณอาจจะใส่แว่นแก้ไขสายตาที่ไม่ถูกต้องการได้รับคำแนะนำที่ถุกต้องเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาสามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดจากภาวะตาล้าได้
